เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D1

ทริปนี้เที่ยวไหนบ้าง คลิกลิงค์ดูได้เลย >>>
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังโกร์  / วัดทเมย  / ปราสาทพนมบาเค็ง 

ปราสาทนครวัด (Angkor Wat)

เสียมเรียบ (Siem Reap) หรือเสียมราฐ เป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศกัมพูชา เป็นที่ตั้งของนครวัดและกลุ่มปราสาทหินหลายแห่ง มีเมืองหลัก(เหมือนอำเภอเมืองบ้านเรา)ที่มีชื่อเดียวกันว่าเสียมราฐ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศกัมพูชา

ทริปนี้ เป็นทริปที่ต่อยอดมาจาก >>> เที่ยวมาเลเซีย ไปกับทัวร์จะให้ชัวร์ควรรู้อะไร 
ซึ่งเป็นการไปกับบริษัททัวร์ ตอนหลังจึงได้ลองวางแผนเที่ยวเองบ้าง

อันนี้คือแผนท่องเที่ยวและคชจ. >>> เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์เตรียมตัวอย่างไร

โดยวันนี้  เราได้ออกเดินทางแต่เช้ามืด ขึ้นรถบัส ผ่านตม2จุด หลบหนีผู้คนทั้งที่ไว้ใจและไม่ไว้ใจ มาถึงด่านปอยเปตเพื่อต่อแท็กซี่เข้าเสียมเรียบ ซึ่งได้แวะเที่ยว3จุดก่อนจะเข้าที่พัก 

แผนท่องเที่ยวของวันนี้ จะเขียนไว้ด้านบนสุด สามารถคลิกเพื่อเลื่อนลงไปดูตามสถานที่ที่สนใจได้ 

พร้อมแล้ว ไปเที่ยวกันเลย >>>

"ไกด์บอกว่ารถตู้คันนี้จุคนได้ถึง 30คน ล้อเล่นหรือเปล่า?"

เจอรถตู้คันนี้ ระหว่างเดินทางจากปอยเปตไปเสียมเรียบ

"เมื่อมาถึงเสียมเรียบในตอนเย็น 
ไกด์จึงพาแวะเติมพลังด้วยอาหารง่ายๆก่อน รู้ว่าต้องอร่อยแน่ๆ
สังเกตได้จาก ขนาดของท่อนฟืน!"

ร้านอาหารท้องถิ่นในเสียมเรียบ

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังโกร์(Angkor National Museum)

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังโกร์ เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในกัมพูชา จัดแสดงทรัพย์สมบัติและสิ่งประดิษฐ์จากยุคทองของอาณาจักรเขมรในสมัยที่นครวัดถูกสร้างขึ้น รวมถึงจัดแสดงผลงานชิ้นสำคัญและรูปแบบของศิลปะเขมรแบบดั้งเดิม วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมที่ยังคงมีคุณค่าจวบจนถึงปัจจุบัน

"ยังไม่เข้าที่พัก แต่มาทำความรู้จักกับประวัติศาสตร์บ้านเค้าก่อน"

ภายในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังโกร์

วัดทเมย (Wat Thmei)

วัดทเมย คือวัดที่รวบรวมอัฐิของผู้ที่เสียชีวิตสมัยเขมรแดง หรือ KILLING FILED OF SIEM REAP

"สถานที่ถัดไป คือวัดที่ทำให้รู้สึกปลงมากที่สุด"

อัฐิผู้เสียชีวิตสมัยเขมรแดงในวัดทเมย

"เมื่อแวะไปซื้อ 3day pass สำหรับนครวัด-นครธมแล้ว 

ซึ่งบูธขายตั๋วอยู่ไม่ห่างจากวัดทเมย (ต้องยืนถ่ายรูปติดบัตรด้วย)

 จึงเดินทางมารอชมอาทิตย์ตกดินที่ พนมบาเค็ง"

บรรยากาศก่อนขึ้นปราสาทพนมบาเค็ง

"ระหว่างเดินต่อคิวเพื่อขึ้นปราสาท

จะเห็นทางขึ้นเก่าๆ ที่แทบจะมองไม่เห็นขั้นบันไดแล้ว"

ทางขึ้นด้านหนึ่งของปราสาทพนมบาเค็ง ที่ถูกปิดไปแล้ว

"การขึ้นปราสาทพนมบาเค็ง เจ้าหน้าที่จะจำกัดจำนวนคนที่ไม่เกิน 100คน จึงต้องยืนรอให้คนข้างบนเดินลงมาก่อน 
ทีแรกคิดว่าจะแห้ว แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นทุกคน"

ยืนรอคิวเพื่อขึ้นไปชมอาทิตย์ตกดิน ที่ปราสาทพนมบาเค็ง

ปราสาทพนมบาเค็ง(Phnom Bakheng)

ปราสาทพนมบาเค็ง (Phnom Bakheng) ตั้งอยู่บนยอดภูเขา 75 เมตร จากระดับน้ำทะเล สร้างในสมัยของพระเจ้ายะโสวรมันที่ 1 พ.ศ. 1432 - 1453 เป็นศาสนาสถานฮินดูถวายแด่พระศิวะ จากศิลาจารึกภาษาสันสกฤตพบที่ปราสาทสด๊อกก๊องธม จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เมื่อ "ศรียโสวรธานา" ขึ้นครองราชเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า "ยะโสวรมัน" พระองค์มีพราหมณ์ชื่อ "วามะศิวะ" ซึ่งได้ประดิษฐานศิวะลึงค์ไว้บนยอดภูเขา "ศรียะโสธาระคีรี" เปรียบเมือนเขาพระสุเมรอันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สถิตของเหล่าทวยเทพ ในที่นี้ศิวะลึงค์ (Royal Linga) เป็นสัญลักษณ์ของการปกครองโดยระบอบ "กษัตริย์สมมุติเทพ" ริเริ่มโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรขอม เมื่อปี พ.ศ. 1346 ปราสาทพนมบาเค็งมีรูปทรงเป็นปีรามิดสี่เหลี่ยมขั้นบันได 5 ชั้น โดยชั้นล่างสุดมีขนาด 76 x 76 ตารางเมตร ลดหลั่นไปเรื่อยๆจนถึงชั้นบนสุด 47 x 47 ตารางเมตร มีบันไดขึ้นสี่ด้าน มีปรางขนาดเล็กรายล้อมอยู่ตามชั้นต่างๆรวมทั้งสิ้น 108 แท่ง บริเวณยอดเขาจะเป็นลานปราสาทมีจุดชมวิวเมืองพระนครเป็นแบบBird eye view

"เนื่องจากด้านบนมีคนอยู่มากมาย แต่อยากได้ภาพที่ติดคนน้อยๆจึงแอบมานั่งถ่ายรูปตรงนี้"

อาทิตย์ตกดินที่ปราสาทพนมบาเค็ง

"อาทิตย์ตกดินที่พนมบาเค็งสวยมาก และผู้คนก็มีมากเช่นกัน"

ปราสาทพนมบาเค็งยามโพล้เพล้

"ยืนรอถ่ายรูปจนมืดค่ำรถก็พาไปที่พักเพื่อเช็คอิน 
จบทริปวันแรกด้วยภาพนี้"

ภาพอาทิตย์ตกดินที่ปราสาทพนมบาเค็ง

 แผนเที่ยวในวันอื่นๆ

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
ปราสาทนครวัด ปราสาทปักษีจำกรง
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.2
ปราสาทนครธม ปราสาทบายน ปราสาทปาปวน ปราสาทพิมานอากาศ ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.3

ปราสาทวัดป่าไลเลย์ ปราสาทตาเขียว ปราสาทตาพรหม

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D3

ปราสาทกระวาน ปราสาทแปรรูป ปราสาทแม่บุญตะวันออก 

ปราสาทตาสม ปราสาทนาคพันธ์ ปราสาทพระขรรค์ 

บันทายสำเหร่ บันทายศรี กบาลสเปียน ปราสาทบึงมาลา

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D4

วัดเพรียะพรหมราช วัดตำหนัก วัดบ่อ ศาลพระองค์เจกพระองค์จอม

ปราสาทพระโค ปราสาทบากอง วัดโลเลย โตนเลสาบ 

wat athvea  lucky mall  night market

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D5

เช้าๆ เดินเล่นแถวๆที่พักก่อนแท็กซี่จะมารับกลับไปที่ปอยเปต

แวะทานมื้อเที่ยงที่คาสิโน ซื้อของฝาก แล้วขึ้นรถบัสกลับตามเวลานัด

ถึงกรุงเทพฯราว 22.00น.

อ่านต่อ

เที่ยวผาช่อ อันซีนแห่งภาคเหนือ

ทริปนี้ มีโอกาสไป "ผาช่อ" สถานที่Unseenของ จ.เชียงใหม่ จะเป็นยังไงไปชมกันเลย

ผาช่อ (Pha Chor) อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแม่วาง ต.สันติสุข อ. ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่

ข้อมูลก่อนเดินทาง
ผาช่อ คือหน้าผาสูงกว่า 30ม. และกว้างกว่า 100ม. ที่เชื่อกันว่าเกิดจากการกัดเซาะของลมฝนมานับร้อยนับพันปี แต่ก่อนบริเวณนี้เคยเป็นเส้นทางไหลผ่านของแม่น้ำปิง สังเกตได้จากก้อนหินทรงกลมมนที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ จนกระทั่งแม่น้ำปิงเปลี่ยนสายย้ายทิศทางไหลไปทางอื่น และเกิดการยกตัวเป็นเป็นเนินเขาสูง ตะกอนแม่น้ำปิงก่อตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกาลเวลา และถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา

ควรเตรียมอะไรไป?

รองเท้าผ้าใบหรือหุ้มส้น ตามเส้นทางเดินในผาช่อจะมีทั้งหินและกรวด ใส่ผ้าใบจะสะดวกในการเดินมากกว่า ซึ่งระหว่างทางเดินจะมีจุดทำสปาเท้าโดยการเดินเหยียบหินแม่น้ำ ก็สามารถถอดรองเท้าชั่วคราวได้ หรือใครจะใส่รองเท้าแตะก็ไม่ผิดกติกาจ้าแต่ระวังสะดุดหินนะ อิอิ

น้ำดื่ม ด้วยสภาพพื้นที่ในผาช่อค่อนข้างกว้าง ต้องเดินขึ้นลงบันไดและมีอากาศร้อน โดยเฉพาะหน้าร้อน พกน้ำเข้าไปด้วยก็จะดีมากเลย

ร่มหรือหมวก ถ้าไปถึงในช่วงบ่าย ร่มซักคันช่วยกันร้อนได้นะ

ไปเที่ยวช่วงเวลาไหนดี?

ผาช่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปได้ทุกฤดูกาล แต่หน้าฝนทางเดินจะเฉอะแฉะหน่อย

ช่วงเวลาที่เหมาะกับการถ่ายภาพคือช่วงเช้าก่อนเที่ยง ถ้าเป็นช่วงบ่ายภาพจะย้อนแสงค่ะ

ไปยังไง?

ปัจจุบัน ถนนทางเข้าผาช่อลาดยางเรียบร้อยสะดวกมากแล้ว 

เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

หรือเหมารถจากยังสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ที่ 1 (สองแถวแดง)แบบไป-กลับได้

พร้อมแล้ว.. ไปเที่ยวกันเลย >>>

แต่ก่อนถนนทางเข้าผาช่อยังเป็นลูกรัง ข้างทางก็จะเป็นป่าแบบนี้

เมื่อมาถึงจุดจอดรถแล้ว ยังต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 500เมตร

ก่อนเดินเข้าไป ขอชมบรรยากาศรอบๆก่อน

ระหว่างทางเดินเข้าจะมีจุดให้ทำสปาเท้า ถ้าเป็นช่วงเช้าก็คงจะดี แต่วันที่เราไปเป็นช่วงหน้าร้อนตอนบ่าย ห่ะ! 

ใครอยากทำสปาให้ไปทางนี้

ความร้อนยามบ่าย ทำให้เราไม่สามารถทำตามคู่มือได้ จึงต้องรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว(หากสงสัยโปรดย้อนขึ้นไปอ่านในภาพด้านบน↑)

เมื่อมาถึงจุดนี้ จะมีป้ายบอกทางไปผาช่อ

ร่องรอยหินแม่น้ำที่บอกว่าเคยเป็นทางผ่านของแม่น้ำปิง

 

มาถึงจุดทดสอบสภาพหัวเข่าของแต่ละคนแล้ว

สำหรับใครที่ไปต่อไม่ไหว ก็มีจุดให้นั่งพักระหว่างทางด้วย

กลุ่มเสาโรมันที่"ผาช่อ"

เมื่อขึ้นมาถึงก็จะเห็น กลุ่มเสาโรมัน

และด้านนี้ก็คือผาช่อให้เดินบันไดลงไปอีก.. ห๊ะ?

ผาช่อที่มีความสูงกว่า 30เมตร บอกไม่ถูกว่าใหญ่แค่ไหน เลยใช้คนไปยืนเทียบดู

วันที่ไปเป็นช่วงบ่าย ภาพจะย้อนแสงแบบนี้

จุดยืนถ่ายภาพสำหรับนักท่องเที่ยว โดยมีผู้ชมอยู่ด้านล่าง ได้อารมณ์เหมือนยืนอยู่บนเวที

เนื้อหินที่ถูกกัดเซาะมาเป็นเวลานาน เห็นแล้วอยากกิน"ขนมไม้"เลยอ่ะ 

ปิดทริปไปด้วยภาพนี้ จริงๆทางออกจะเป็นเส้นทางให้ศึกษาเนื้อดินที่เคยอยู่ใต้แม่น้ำปิงด้วย อย่าลืมไปชมกันนะ

 รู้ไว้ใช่ว่า  

เส้นทางเข้าไปผาช่อจะไม่มีสัญญาณ ใครที่ใช้ google map ให้โหลดแบบออฟไลน์ไว้นะ วันที่เราไปสัญญาณติดๆดับๆตลอดทาง หลงเข้าป่าไปหลายรอบ มึนกันทั้งคนขับทั้งคนดูทางเลยทีเดียว 

หน้าร้อนผาช่อจะร้อนมาก ใครที่ใช้มือถือในการถ่ายภาพ เครื่องจะปิดตัวเพื่อป้องกันความร้อน ถ้าไม่อยากเสียอารมณ์กับการถ่ายภาพ เตรียมกล้องถ่ายรูปไปน๊าา

จบแล้ว... 

ขอให้ทริปนี้เป็นช่วงเวลาที่พิเศษน๊า 

แนะนำสถานที่เที่ยวอื่นๆในภาคเหนือกับเรื่องที่เกี่ยวข้อง

ทำอย่างไรถ้าจะไปกางเต็นท์ในฤดูหนาว

แพะเมืองผี ณ ที่แห่งนี้มีเรื่องเล่า   

อ่านต่อ

เที่ยวสามพันโบก โขยกเขยกสามพันหลุม

ทริปนี้ไปไหนดี ไป"สามพันโบก"ซี จะมีอะไรไปดูกัน

แก่งสามพันโบก(Sam Phan Bok) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านโป่งเป้าและบ้านสองคอน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี

สามพันโบกเป็นแก่งหินที่อยู่ใต้ลำน้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลาก เกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะ จนกลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000แอ่ง หรือ3,000โบก คำว่า “โบก” เป็นภาษาลาวที่มักนิยมเรียกกัน จะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำแห้งขอด แก่งหินก็จะโผล่พ้นน้ำคล้ายภูเขากลางลำน้ำโขง ชาวบ้านเรียกว่าแกรนแคนยอนน้ำโขง ซึ่งจะสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม - พฤษภาคม 

จุดท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ

สามพันโบก            หาดสลึง
ปากบ้อง                 หินหัวพะเนียง
หลักศิลาเลข          หาดหงส์

วิธีการท่องเที่ยวในสามพันโบก มีอยู่ 2วิธี

วิธีแรก คือการขับรถเข้าไปจอดที่นั่น เพื่อเดินชมความงาม หรือจะเช่าเรือจากสามพันโบกเพื่อท่องเที่ยวไปยังจุดต่างๆได้เลย 

วิธีที่2 คือการล่องเรือจากหาดสลึง ซึ่งสามารถติดต่อเช่าเรือได้จากที่พักที่เข้าพัก 

ข้อมูลก่อนเดินทาง

เตรียมอะไรไป?

รองเท้าผ้าใบหรือหุ้มส้น พื้นที่ตามแก่งจะเป็นหินเรียบ บางจุดก็ลาดเอียง อาจลื่นเล็กน้อย ใส่รองเท้าผ้าใบพื้นยางดีๆจะช่วยลดการบาดเจ็บ 

หรือถ้าหากต้องการล่องเรือไปยังหาดหงษ์ที่เป็นพื้นทราย รองเท้ารัดส้นคงจะสะดวกที่สุด

อุปกรณ์กันความร้อน ถ้าไปเที่ยวในช่วงฤดูร้อนในสามพันโบกที่มีแต่หินจะร้อนมาก เตรียมร่ม หมวก หรือเสื้อคลุม ไว้ช่วยได้  

ควรเที่ยวช่วงเวลาไหนดี?
เวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวสามพันโบกคือ ช่วงเดือนธันวาคม - พฤษภาคม 

ในเวลาเช้า ประมาณ 06.00น. - 09.00น. หรือหรือบ่าย ประมาณ15.00น. - 17.30 น. เพราะเป็นช่วงที่อากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก และมืดค่ำจนเกินไป 

การเดินทางล่ะ?

เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว

หรือขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศของบริษัทเชิดชัยทัวร์ กรุงเทพฯ - สองคอน ลงที่สองคอน แล้วโทรแจ้งให้รีสอร์ทมารับก็ได้

พร้อมแล้ว..ไปเที่ยวกันเลย >>>

วันแรกที่เดินทางมาถึงคือช่วงเย็น เลยเลือกขับรถเข้ามาจอดที่สามพันโบกเพื่อเดินชมความสวยงามกันก่อน

แก่งหินกว้างมาก เดินเที่ยวได้เพลินๆเลย

 หรือจะขึ้นไปยืนรับลมเท่ห์ๆบนโน้นก็ไม่เลวนะ

พระอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า จึงพากันกลับที่พัก ค่อยออกมาล่องเรือในตอนเช้า

วาร์ป..มาอีกทีตอนเช้า เราออกเรือจากหาดสลึง เพื่อไปหาดหงษ์

และจุดอื่นๆ โดยมีไกด์นำทางตัวน้อยมาให้ข้อมูลในวันนี้

ตรงทางเข้าสามพันโบกจะมีหินสวยงามลักษณะคล้ายหัวสุนัข

มีตำนานเล่าขานกันว่า แต่ก่อนมีเจ้าเมืองเป็นผู้เรืองอำนาจ ประทับใจในความงามของสามพันโบก จึงส่งเสนามาดูแล้วก็พบขุมทรัพย์ทองคำแล้วกลับมาทูลแก่เจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงได้เดินทางเข้าไปโดยให้สุนัขเฝ้าทางเข้าไว้จนกว่าเจ้าเมืองจะกลับออกมา แต่เมื่อเจ้าเมืองได้เห็นสมบัติก็เกิดความโลภ กลัวเสนาจะได้ส่วนแบ่งจึงได้ออกไปอีกทางหนึ่ง ทิ้งให้สุนัขผู้ภักดีเฝ้ารออยู่ตรงนั้นจนตายในที่สุด 

บางตำนานก็ว่า ลูกพญานาคในลำน้ำโขงเป็นผู้ขุด เพื่อให้เกิดลำน้ำอีกสายหนึ่ง และได้มอบหมายให้สุนัขเป็นผู้เฝ้าทางเข้าระหว่างการขุดกระทั่งสุนัขได้ตายลงกลายเป็นหินรูปสุนัขในที่สุด

ภาพบน หินหัวสุนัขที่ถ่ายมาโดยบังเอิญ อยู่ตรงโน้น...ไกลม๊ากกก

สามพันโบก แกรนด์เคนยอนด์แห่งเมืองสยาม

เรือลำอื่นๆก็มาเที่ยวเหมือนกัน

หาดหงส์ เกิดจากการการพัดพาของน้ำและนำตะกอนทรายมาทับถมกัน จนกลายเป็นพื้นทรายคล้ายกับทะเลทรายที่กว้างใหญ่ 

จริงๆแล้ว ช่วงเวลาที่ควรมาเที่ยวหาดหงส์ ควรเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ ที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จะเป็นช่วงเวลาที่สวยงามมากที่สุด

พอขึ้นไปเดินแล้วเหลือตัวเล็กนิดเดียว

ล่องเรือกลับกันแล้ว

จบทริปสามพันโบกไปด้วยภาพนี้

ของแถม ใกล้ๆสามพันโบกมีอีกสถานที่นึงที่คนชอบความสูงไม่ควรพลาด คือ"ผาวัดใจ" เดินผ่านไปทางนี้

ผาวัดใจ ตั้งอยู่ที่ บ้านผาชัน อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลฯ

มีลักษณะเป็นหินผา ยืนยาวชี้ไปทางฝั่งประเทศลาว หากใครสนใจไปถ่ายภาพเก๋ๆได้เลย แต่ลมแรงๆระวังปลิวนะ 555

 รู้ไว้ใช่ว่า  
ถ้าขับรถไปก่อนจะถึงสามพันโบก ตรงนั้นจะมีรถเยอะพอควร และมีคนมายืนโบกรถให้เข้าไปจอดในลานจอดรถ เค้าเก็บตังค์ค่าจอดนะ คันเราเลี้ยวเข้าไปด้วยความเคยชินกับการถูกโบกเลยเสียตังค์เล่นๆซะงั้น ตอนนี้ไม่รู้ยังมีอยู่มั้ยนะแต่ถ้าขับเลยตรงนี้ขึ้นไปจอดบนโบกได้เลยไม่เสียค่าจอดจ้า
สามพันโบกในฤดูร้อนจะร้อนมาก ถ้าไม่ชอบร้อนๆ ให้เลือกไปเที่ยวช่วงหน้าหนาว
จบแล้ว... 

ขอให้ทริปนี้เป็นช่วงเวลาที่พิเศษน๊า 

ที่เที่ยวอื่นๆในภาคอีสานกับเรื่องที่เกี่ยวข้อง

เที่ยวผาแต้ม ที่ที่ตะวันตกก่อนใครในสยาม

อ่านต่อ