วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1

ทริปนี้เที่ยวไหนบ้าง คลิกลิงค์ดูได้เลย >>>
ส่วนนอกสุดของปราสาทนครวัด / ปราสาทนครวัด / ภายในบริเวณในปราสาทนครวัด / ศูนย์กลางของกลุ่มปราสาท /
ทางเดินระเบียงคตชั้นนอก / ภาพสลักกวนเกษียรสมุทร / ภาพสลัก นรก สวรรค์ การพิพากษาของพญายม /
ภาพสลักขบวนทัพของพระเจ้าสุรยวรมันที่ 2 / ปราสาทปักษีจำกรง

กัมพูชา-เสียมเรียบ
ภาพยามเช้าที่ปราสาทนครวัด

เราได้มาถึงวันที่สองของทริปนี้แล้ว โดยในวันแรกเราไปที่อื่นๆและปราสาทพนมบาเค็ง >>> เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D1
อันนี้เป็นแผนท่องเที่ยวและคชจ. >>> เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์เตรียมตัวอย่างไร

ส่วนเป้าหมายหลักของวันนี้คือ นครวัด-นครธม และได้ไปสถานที่อื่นๆด้วย ซึ่งพอกลับมาก็ได้แต่คิดกับตัวเองว่า "นี่เรากินอะไรเข้าไป? ถึงได้จัดทริปเดินขาลากขึ้นมาได้" ทำให้กลับถึงบ้านต้องมาหัดเดินกันใหม่เลยทีเดียว 

ปราสาทนครวัด     ปราสาทปักษีจำกรง      ปราสาทนครธม     ปราสาทบายน
ปราสาทปาปวน     ปราสาทพิมานอากาศ   ลานช้าง                 ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
ปราสาทวัดป่าไลเลย์                                  ปราสาทตาเขียว    ปราสาทตาพรหม

โดยวันที่สองจะแบ่งเป็น 3บล็อก


เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
ปราสาทนครวัด ปราสาทปักษีจำกรง

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.2
ปราสาทนครธม ปราสาทบายน ปราสาทปาปวน ปราสาทพิมานอากาศ 
ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.3
ปราสาทวัดป่าไลเลย์ ปราสาทตาเขียว ปราสาทตาพรหม

แผนท่องเที่ยวของD2.1 จะเขียนไว้ด้านบนสุด สามารถคลิกเพื่อเลื่อนลงไปดูตามจุดที่สนใจได้

พร้อมแล้ว งั้นไปเที่ยวกันเลย >>>

วันนี้เราจะออกกันแต่เช้าด้วยรถตุ๊กๆ โดยไม่ลืมอาหารเช้าที่โรงแรมจัดใส่กล่องให้  เพื่อไปให้ทันจองที่ถ่ายภาพดีๆ รออาทิตย์ขึ้นที่ปราสาทนครวัด ก่อนจะไปสถานที่ที่เหลือทั้งหมด แล้วกลับมานครวัดอีกทีช่วงบ่ายแก่ๆ


ส่วนนอกสุดของปราสาทนครวัด
ส่วนนอกสุดของนครวัดกั้นด้วยคูเมืองขนาดใหญ่ ยาว 1.5 กิโลเมตร กว้าง 1.3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมดเกือบ 2 ตารางกิโลเมตร การวางผังของปราสาทที่ไม่เหมือนปราสาทอื่น สังเกตได้จากโคปุระทางทิศตะวันตกของกำแพงนอกสุดจะมีขนาดใหญ่ที่สุดและใหญ่กว่าโคปุระอีก 3 ทิศ
"แค่มาถึงตรงนี้ ก็สัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่แล้ว"
ปราสาทนครวัด (Angkor Wat)
ด้านนอกของปราสาทนครวัด


ปราสาทนครวัด(Angkor Wat)
ปราสาทนครวัด เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง นครวัด (เขมร: អង្គរវត្ត) เป็นศาสนสถานตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยเป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร
"หากต้องการถ่ายภาพมุมนี้ เมื่อเดินผ่านคูน้ำและเข้าประตูไปแล้ว 
ให้เดินไปทางสระน้ำด้านซ้ายมือ"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
ปราสาทนครวัด (Angkor Wat)

บริเวณภายในปราสาทนครวัด
ปราสาทนครวัดมีขนาดใหญ่มากถึง 200,000 ตารางเมตร ตัวปราสาทสูง 60 เมตร ยาว 100 เมตร และกว้าง 80 เมตร มีแผนผังที่ถือว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของปราสาทขอม มีปราสาท 5 หลังตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติของศูนย์กลางจักรวาล มีกำแพงด้านนอกยาวด้านละ 1.5 กิโลเมตร มีคูน้ำล้อมรอบตามแบบ มหาสมุทรบนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ ใช้หินรวม 600,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้แรงงานช้างกว่า 40,000 เชือก และแรงงานคนนับแสนขนหินและชักลากหินมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปกว่า 50 กิโลเมตร มาสร้าง ปราสาทนครวัด มีเสา 1,800 ต้น หนักต้นละกว่า 10 ตัน ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี ใช้ช่างแกะสลัก 5,000 คน และใช้เวลาถึง 40 ปี
"เมื่อเห็นผู้คนแล้วก็อุ่นใจ ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
บรรยากาศยามเช้า ภายในบริเวณปราสาทนครวัด

วาร์ปมาอีกทีช่วงบ่าย >>>

"หลังจากที่ได้ออกไปเที่ยวที่อื่นๆตามแผนจนครบ
จึงได้ย้อนกลับมาที่นี่อีกครั้งในตอนบ่าย
อากาศภายนอกค่อนข้างร้อน แต่ภายในปราสาทเย็นสบาย"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
ภาพปราสาทนครวัดในช่วงบ่าย


ศุนย์กลางของกลุ่มปราสาท
หอสูงกว่า60เมตร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของกลุ่มปราสาท อันเปรียบเสมือนศูนย์กลางของจักรวาลนั้น มีทางเดินขึ้นที่ชันมาก ราว 50 องศา แต่ก็กลับเป็นจุดสำคัญที่นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยจะต้องปีนขึ้นไปและไต่ลงมา ที่จุดบนสุดของหอนี้จะมองเห็นวิวที่สวยสุดของปราสาท ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของนครวัด สัญลักษณ์ต่างๆที่แทนในสิ่งก่อสร้างทั้งหลายตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดูก็ให้ภาพและความรู้สึกที่คล้ายจริง คูเมืองหมายถึงมหาสมุทรที่ล้อมรอบโลก ระเบียงคตที่เชื่อมกันล้อมรอบปราสาท หมายถึงเทือกเขาน้อยใหญ่ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุที่ประทับของเทพเจ้า และตัวปราสาทชั้นบนสุดหรือปรางค์ประธานหมายถึงยอดเขาพระสุเมรุ การได้ขึ้นไปถึงปรางค์ประธานอันสูงชันก็เหมือนการจำลองการขึ้นเขาพระสุเมรุจริงๆ
"อีกด้านนึง จะมีบันไดไม้ที่ทำไว้ให้เดินขึ้นไปด้วย จะชันๆนิดนึง"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
บริเวณศูนย์กลางของกลุ่มปราสาทนครวัด


ทางเดินระเบียงคตชั้นนอก
ภาพสลักที่มหาปราสาทนครวัดนับเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของศิลปะขอม จนได้ชื่อว่าเป็นศิลปะยุคนครวัด ปรากฏอยู่ที่ผนังด้านในระเบียงคตชั้นนอกสุดของตัวปราสาท พื้นที่รวมของภาพสลักมีนาดใหญ่มาก ยาวเกือบ 600 เมตร เนื้อหาของภาพส่วนใหญ่มาจากคัมภีร์พระเวท และมหากาพย์ของสาสนาฮินดู
"จุดเด่นที่สุดอีกจุดหนึ่งคือภาพสลักของปราสาทนครวัด ซึ่งจะมีอยู่รอบปราสาททั้ง 4ด้าน"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
บริเวณระเบียงคตของปราสาทนครวัด

ภาพสลักกวนเกษียรสมุทร
การกวนเกษียรสมุทรมีจุดประสงค์เพื่อผลิตน้ำอมฤต โดยใช้เวลาถึง 1,000 ปี น้ำอมฤตนั้นมีฤทธิ์ทำให้ผู้ที่ได้ดื่มกินเป็นอมตะ บางตำรากล่าวถึงสาเหตุของการกวนเกษียรสมุทรว่าเนื่องมาจากเทวดาและอสูรมักจะสู้รบ ยกทัพมาปราบอีกฝ่ายบ่อยครั้ง ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะอยู่เรื่อยมา ฝ่ายเทวดาจึงไปขอคำปรึกษากับพระวิษณุว่า ทำอย่างไรจึงจะรบชนะเหล่าอสูรได้ตลอดทุกครั้งพระวิษณุจึงแนะนำเรื่องการกวนเกษียรสมุทรเพื่อผลิตน้ำอมฤต ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่และต้องใช้พละกำลังมาก โดยใช้ภูเขามันทระเป็นแกนหมุน ใช้นาควาสุกรีแทนเชือกพันรอบเขามันทระแล้วแบ่งเป็นสองฝ่ายผลัดกันดึงสลับไป-มา เทวดาได้ยินดังนั้นก็ออกอุบายยืมแรงอสูรให้มาช่วยดึงนาคเพื่อกวนทะเลน้ำนม และให้สัญญาว่าจะแบ่งน้ำอมฤตที่ได้ให้ ฝ่ายอสูรเห็นดีก็ตอบตกลง จึงแบ่งด้านกันกวน ฝ่ายเทวดาอยู่ดึงนาควาสุกรีด้านหาง ฝ่ายอสูรให้ดึงด้านหัว การกวนครั้งนั้นใช้เวลานาน เขามันทระก็ค่อยๆ เจาะโลกลึกลงๆ พระวิษณุเป็นห่วงว่าโลกจะทะลุหรือแตกสลาย จึงได้อวตารเป็นเต่า (ปางกูรมาวตาร) เอากระดองรองรับเขามันทระไว้ (ซึ่งเป็นตอนที่ปรากฏบนฝาผนัง)
"ภาพสลักที่หาเจอ ภาพที่1"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
ภาพสลักในปราสาทนครวัด

ภาพสลักนรก สวรรค์ การพิพากษาของพญายม
ภาพสลักนี้นักโบราณคดีหลายท่านเชื่อว่าหลังจากที่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว ลักษณะของภาพแบ่งเป็นสองตอน แต่ละตอนแบ่งออกเป็นสองถึงสามชั้น ซึ่งชั้นบนจะเป็นบนโลก และสวรรค์ ชั้นล่างสุดเป็นรก ในตอนแรกซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของภาพ เป็นภาพของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เสด็จนำเหล่าข้าราชบริพารที่ดีขึ้นสวรรค์ พวกอสูรและคนไม่ดีตกนรก ในตอนที่สองชั้นกลางเป็นภาพพญายมสิบแปดมือนั่งพิพากษาความดี-ชั่ว ของคนตายบนหลังควายซึ่งเป็นสัตว์พาหนะ และภาพที่นับเป็นจุดเด่นของภาพสลักนี้คือภาพชั้นล่างของนรกขุมต่างๆ ที่มีการทรมารคนชั่วคนบาปตามคติขอมเชื่อว่านรกภูมิแบ่งเป็นชั้นถึง 32 ชั้น
"ภาพสลักที่หาเจอ ภาพที่2"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
ภาพสลักภายในปราสาทนครวัด

ภาพสลักขบวนทัพของพระเจ้าสุรยวรมันที่ 2
นับเป็นภาพสลักที่ต่างจากทุกภาพ คือเป็นภาพจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ มีความยาวถึง 94 เมตร โดยแบ่งภาพออกได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นช่วงที่ยังไม่จัดตั้งขบวนทัพ ส่วนที่สองเป็นภาพขบวนทัพ ในส่วนแรกนั้นแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนเป็นภาพพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ประทับบนราชบัลลังก์ ล้อมรอบด้วยเหล่ารัฐมนตรี และแม่ทัพนายกองที่มาเฝ้า ชั้นล่างเป็นภาพขบวนของเจ้าหญิง พระธิดาบนเสลี่ยง เมื่อสิ้นสุดภาพในส่วนแรกก็เริ่มเป็นภาพขบวนทัพของทหารเดินเรียงไปตลอดแนว พร้อมกับแม่ทัพนายกองของแต่ละกองทัพบนหลังช้าง เกือบหน้าสุดของขบวนทัพเป็นกองทัพที่มีลักษณะแตกต่างจากทัพอื่นทหารมีใบหน้าที่โค้งมน สวมเสื้อลายดอก นุ่งผ้าคล้ายกระโปรง ชายผ้ายาว สวมหมวกทรงสูงเป็นชั้นๆ ที่ปลายมีภู่ยาว แม่ทัพอยู่บนหลังช้างเช่นกัน สันนิษฐานว่าเป็นทัพของชาวสยาม
 "ไม่ฟันธงว่าจะใช่ภาพนี้ เหตุผลคือหาไม่เจอนั่นเอง
ให้เพื่อนๆไปค้นหากันต่อดีกว่า"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
ค้นหาภาพสลักตามประวัติศาสตร์





"ปราสาทนครวัดใหญ่มาก ทางออกจึงไกลประมาณนี้"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2
ทางเดินชั้นนอกของปราสาทนครวัด

"ปิดท้ายด้วยภาพนครวัดในฝัน #คนถ่ายคิดไปเอง"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
ภาพปราสาทนครวัดในจินตนาการ


เมื่อนำภาพนครวัดทั้งช่วงเช้าและบ่ายมาต่อกันครบแล้ว
ก็กลับมาที่ช่วงเช้าอีกทีนึง ไปที่อื่นกันต่อ >>>




ปราสาทปักษีจำกรง(Bak Say Jum Krong)
ปราสาทปักษีจำกรง เป็นปราสาทหินขนาดเล็กสร้างขึ้นเป็นเทวาลัยถวายแด่พระศิวะ ปราสาทแห่งนี้เคยมีเทวรูปพระศิวะทองคำประดิษฐานอยู่ด้วย ปราสาทปักษีจำกรงตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองพระนครธม และห่างจากเชิงเขาพนมบาแคงประมาณ 150 เมตร อยู่ด้านซ้ายเมื่อเราเดินทางเข้าเมืองนครธมทางประตูด้านใต้ ปักษีจำกรงสร้างโดยพระเจ้าหสวรรมันที่ 1 ปี ค.ศ 910-945 เพื่ออุทิศถวายแด่พระเจ้ายโศวรรมันที่ 1 ผู้เป็นพระบิดา การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัย พระเจ้าราเชนทรวรรมันที่ 2 ปี ค.ศ 944-968 ปราสาทปักษีจำกรงสร้างอุทิศให้กับศาสนาฮินดูไศวะนิกาย ตามหลักฐานได้ระบุไว้ว่าศิลาจารึกที่ปราสาทปักษีจำกรงไม่ได้จารึกในยุคของ พระเจ้าหสวรรมันที่ 1 คือถูกจารึกขึ้นในยุค พระเจ้าราเชนทรวรรมันที่ 2 หลังจากการย้ายเมืองหลวงจากเกาะแกร์กลับมาที่เมืองพระนครอีกครั้ง (ค.ศ 948) ศิลาจารึกนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นการเล่าเรื่องบรรพชลองค์แรกของกัมพูชาคือพราหมห์ “กัมปุ หรือ กัมพุ” กับนางเทพอัปสร “เมรา” ปราสาทปักษีจำกรงสร้างในยุคสำริด คำ ว่า ปักษีจำกรง หมายถึง ปักษีหรือนกอยู่ภายใต้ปีกที่กางออก ด้วยมีตำนานว่า พระราชาทรงพยายามจะหนีข้าศึกที่เข้ามาโจมตีพระนคร แต่พลันมีพญานกตัวมหึมาร่อนลงมาสยายปีกคุ้มครองพระองค์เอาไว้ ปราสาทแห่งนี้นับเป็นปราสาทสมัยแรกที่สร้างด้วยวัสดุทนทานเช่นอิฐและศิลาแลง แล้วมีการประดับตกแต่งด้วยหินทรายปูนที่ฉาบผิวด้านนอกส่วนใหญ่ชำรุดเสียหายไป และลวดลายที่สลักส่วนใหญ่ก็ชำรุดไปมากแล้ว
"ปราสาทนี้สามารถเดินขึ้นไปได้ ควรเช็คหัวเข่าก่อนขึ้นไป"
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
ภาพปราสาทปักษีจำกรง ปราสาทหินขนาดเล็กสร้างขึ้นเป็นเทวาลัยถวายแด่พระศิวะ 




แผนเที่ยวในวันอื่นๆ

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D1
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังโกร์ วัดทเมย ปราสาทพนมบาเค็ง
ปราสาทกระวาน ปราสาทแปรรูป ปราสาทแม่บุญตะวันออก 
ปราสาทตาสม ปราสาทนาคพันธ์ ปราสาทพระขรรค์ 
บันทายสำเหร่ บันทายศรี กบาลสเปียน ปราสาทบึงมาลา

วัดเพรียะพรหมราช วัดตำหนัก วัดบ่อ ศาลพระองค์เจกพระองค์จอม
ปราสาทพระโค ปราสาทบากอง วัดโลเลย โตนเลสาบ 
wat athvea lucky mall night market

เช้าๆ เดินเล่นแถวๆที่พักก่อนแท็กซี่จะมารับกลับไปที่ปอยเปต
แวะทานมื้อเที่ยงที่คาสิโน ซื้อของฝาก แล้วขึ้นรถบัสกลับตามเวลานัด
ถึงกรุงเทพฯราว 22.00น.

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบล็อกนี้

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

เที่ยวเนปาล-เทรคกิ้งพูนฮิลล์ เดินช้าๆไปกับไกด์ท้องถิ่น.D10

จากน่านฟ้ากรุงกาฐมาณฑุเดินทางสู่เมืองไทย วันที่สิบถือเป็นวันสุดท้ายในประเทศเนปาล วันนี้เราจะได้กลับบ้าน คิดถึงบ้านแล้วสิ.....  โ...

 
back to top