เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D4

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D4 วันนี้ไปไหนบ้าง คลิกลิงค์ดูได้เลย >>>

วัดเพรียะพรหมราช(Preah Prohm Roth Temple) / วัดตำหนัก(wat damnak) / วัดบ่อ (Wat Bo) / ศาลองค์เจกองค์จอม
ปราสาทพระโค(Preah Ko) / ปราสาทบากอง(Bakong) / ปราสาทโลเลย(Lolei) / โตนเลสาบ / ทะเลสาบเขมร(Tonle Sap)
Athvea Temple / ยามค่ำที่เมืองเสียมเรียบ

ตอนนี้เราได้มาถึงวันที่สี่ของทริปนี้แล้ว

โดยในก่อนหน้านี้เราได้ไปที่อื่นๆมาแล้ว ตามนี้ >>>
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D1
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.2
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.3
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D3

อันนี้เป็นแผนท่องเที่ยวและคชจ. >>>
เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์เตรียมตัวอย่างไร

ส่วนแผนท่องเที่ยวของ เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D4 จะเขียนไว้ด้านบนสุด สามารถคลิกเพื่อวาร์ปไปยังจุดที่สนใจได้

     วันนี้ออกจากที่พักสายหน่อย เพราะเราจะเที่ยวกันแค่ในเมืองเท่านั้น
เรากลับมาเดินทางด้วยตุ๊กๆอีกครั้ง และไปยังจุดต่างๆครบจบตามแผนท่องเที่ยวทั้งหมด จึงถือว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการท่องเที่ยวในเสียมเรียบแล้ว แต่เราจะเดินทางกลับในตอนเช้าของวันถัดไป
     น้องที่ขับรถตุ๊กๆทำหน้าที่ไกด์ได้เป็นอย่างดี ทั้งขับรถ พาชมสถานที่ต่างๆพร้อมทั้งบรรยายเรื่องราวต่างๆ...หากถามว่าจำได้มั้ย ขอตอบว่า "ไม่"


พร้อมแล้ว งั้น.. ไปเที่ยวกันเลย >>>

"หลังจากทานมื้อเช้าจากที่พัก ก็ได้ออกมาเดินสำรวจเมืองแป๊บนึง บรรยากาศยามเช้าต่างจากตอนกลางคืนมาก"

บรรยากาศยามเช้าในเมืองเสียมเรียบ

วัดเพรียะพรหมราช(Preah Prohm Roth Temple)

วัดเพรียะพรหมราช เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ในกรุงเสียมเรียบ ด้วยศาลาที่ตกแต่งภาพพุทธประวัติแบบสามมิติซึ่งเป็นผลงานของศิลปินแนวใหม่ของกัมพูชา มีความสวยงามตามแบบฉบับกัมพูชา นอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือพระนอนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ภายในวิหาร สร้างด้วยกาบเรือของพระชื่อดังที่ชื่อว่า Preah Ang Chong Han Hoy ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวพนมเปญ และกัมพูชา มาตั้งแต่สมัย พ.ศ.1900

"เสียดายที่ลืมตามหาพระนอนที่วัดนี้"

วัดเพรียะพรหมราช (Preah Prohm Roth Temple)

วัดตำหนัก(wat damnak)

วัดตำหนักตั้งอยู่บนถนนวัดบ่อ เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในตัวเมืองเสียมราฐ เดิมเคยเป็นพระราชวังในสมัยรัชกาลสมเด็จพระศรีสวัสดิ์ (2447-2470) ก่อนที่จะทำหน้าที่เป็นคลังทหารเขมรแดงระหว่างปี พ.ศ. 2518-2522 ปัจจุบันอารามเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประถมสององค์กรการกุศลและสถาบันการเย็บผ้าสำหรับหญิงสาวในท้องถิ่น

"นี่คือวัดตำหนัก อย่าอ่านผิดว่าวัดดำนากนะ ไกด์พามาแวะวัดนี้ ก่อนจะไปวัดบ่อ"

วัดตำหนัก (wat damnak)

วัดบ่อ (Wat Bo)

วัดบ่อ คือหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองเสียมเรียบ สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้คือภาพเขียนฝาผนังที่ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ทั้งที่เป็นวัดในศาสนาพุทธ

วัดบ่อ (Wat Bo)

"นั่งตุ๊กๆไป ก็เก็บภาพระหว่างทางไปด้วย"

ภาพระหว่างทางในเมืองเสียมเรียบ

ศาลองค์เจกองค์จอม

ศาลองเจกองค์จอม เปรียบได้กับศาลหลักเมืองของเมืองเสียมเรียบ พระพุทธรูปผู้หญิงสองพี่น้องมีประวัติเก่าแก่ที่ผู้คนให้ความนับถือ มักมีผู้คนทั้งชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแวะเวียนกันมาเคารพบูชาอยู่เสมอ <<<<< ประวัติขององค์เจกองค์จอมถูกกล่าวไปสองทาง บ้างก็ว่า เป็นสองพี่น้องที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมาก และวันหนึ่งหลังจากไปทำบุญกลับมานอนหลับก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย บิดาและมารดาที่มีความอาลัยอย่างมากจึงได้สร้างพระพุทธรูปสององค์นี้ขึ้นมา อีกด้านหนึ่งก็กล่าวว่า อดีตกาลรูปปั้นทั้งสองนี้คือเป็นรูปของธิดา(ลูก)สองพระองค์ของกษัตริย์สมัยนครวัด แต่ก็มีหลากหลายความเห็นและข้อเล่าขานกันมาบางก็ว่าเป็นพระนางชัยราชเทวี และอินทรเทวีที่เป็นพระมเหสีของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ต้นเหตุที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่สนใจและเคารพบูชาองค์เจก องค์จอม เพราะราษฎรในสมัยนั้นให้ความสำคัญกับการทำงานที่สุจริตหรือการประกอบอาชีพสุจริต อ่อนน้อม ถ่อมตน และประกอบด้วยความเมตตา ของพระนางทั้งสองพระองค์และทั้งสองพระองค์ยังเป็นตัวอย่างในการนับถือพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัดอีกด้วย และถูกกล่างขานต่อๆกันมาจนถึงสมัยพระเจ้าจันทรราชาขึ้นครองราชย์ในสตวรรษที่ ๑๖ พระองค์จึงทรงอนุญาตให้สร้างรูปปั้นของพระองค์เจกองค์จอม เพื่อให้ประชาชนเคารพบูชา และเพราะรูปปั้นของพระนางทั้งสองพระองค์ทำให้ราษฎรทั้งพระนครมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายร่มเย็น ประชาชนเลยเคารพบูชาและถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และมีชืื่อเสียงเรียงนามมากที่สุดในประเทศต่อมา >>>>

"แวะมาไหว้ศาลหลักเมืองของเสียมเรียบก่อน"

ศาลองค์เจกองค์จอม ศาลหลักเมืองของเสียมเรียบ

"ใกล้ๆกับศาลองค์เจกองค์จอม มีสวนสาธารณะไว้ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจกันด้วย"

สวนสาธารณะ ใกล้กับศาลองค์เจกองค์จอม

"หลังจากแวะเติมความสดชื่นที่สวนแล้ว จึงออกเดินทางกันต่อ ฝุ่นแดงๆค่อนข้างเยอะ จึงไม่ลืมที่จะนำผ้าผืนใหญ่มาพันหัวไว้"

บรรยากาศในเมืองเสียมเรียบ

ปราสาทพระโค(Preah Ko)

ปราสาทพระโค มีความหมายว่า "โคศักดิ์สิทธิ์" สร้างขุึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1422 โดยพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 เพื่อเป็นเกียรติแก่บรรพบุรูษของมารดาของพระมหากษัตริย์ และเพื่ออุทิศแก่พระศิวะ

"สังเกตุจากจำนวนผู้คนที่เข้ามา ทำให้รู้ว่าปราสาทพระโคก็เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเช่นกัน"

ปราสาทพระโค (Preah Ko)

ปราสาทบากอง(Bakong)

ปราสาทบากอง วัดประจำรัชกาลของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ถูกสร้างโดยการจำลองรูปเขาพระสุเมรุเพื่อสักการะพระศิวะ ถือเป็นวัดบนเขาที่สำคัญแห่งหนึ่ง และนับเป็นปราสาทหินในยุคแรกๆของอาณาจักรขอม

"ปราสาทบากองเป็นอีกหนึ่งปราสาทที่มีบันไดสูง ให้นักท่องเที่ยวได้ทดสอบแรงศรัทธากัน"

ปราสาทบากอง (Bakong)

ปราสาทโลเลย(Lolei)

ปราสาทโลเลย ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 เพื่ออุทิศและสถาปนาบรรพบุรุษให้เป็นเทพเจ้าตามลัทธิเทวราชา เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาป ถือเป็นตัวอย่างปราสาทบนเกาะกลางบารายแห่งแรกในพระนคร

"เนื่องจากตัวปราสาทอยู่ในช่วงซ่อมแซม จึงได้แค่แวะกราบพระในโบสถ์เท่านั้น"

โบสถ์ภายในบริเวณเดียวกับปราสาทโลเลย (Lolei)

"เดินทางไปโตนเลสาปกันต่อ ระหว่างทางได้แวะซื้อน้ำอ้อยด้วย ซึ่งก็เป็นตามคำล่ำลือ มันคือน้ำอ้อยผสมน้ำส้มจริงๆ รสชาดแปลกดี"

ระหว่างทางไปโตนเลสาป

"ก่อนถึงโตนเลสาป จะเจอบึงบัวขนาดใหญ่ให้ได้แวะถ่ายภาพ และมีเม็ดบัวเป็นฝักสดๆ ขายในราคามิตรภาพด้วย (ให้คนขับรถซื้อให้นะ)"

"ศูนย์การเรียนรู้ของชุมชน"

ศูนย์การเรียนรู้ ระหว่างทางไปโตนเลสาป

โตนเลสาบ / ทะเลสาบเขมร(Tonle Sap)

โตนเลสาบ หรือทะเลสาบเขมร เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งในฤดูฝนจะมีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่ากรุงเทพฯถึง 10เท่า โตนเลสาบเกิดจากแม่น้ำโขงมีความยาวถึง 500กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดของกัมพูชา เป็นทะเลสาบที่มีปลาน้ำจืดชุกชุมมากแห่งหนึ่ง

"หากใครสนใจสามารถล่องเรือชมความยิ่งใหญ่ของโตนเลสาบได้"

โตนเลสาบ / ทะเลสาบเขมร (Tonle Sap)

Athvea Temple

ปราสาทAthvea คือปราสาทแบบฮินดู ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ศิลปะแบบนครวัด มีทั้งสุสานและวัดพุทธอยู่ในรั้วกำแพงเดียวกัน

"วัดนี้คือสถานที่สุดท้ายของแผนเที่ยวเสียมเรียบ อยู่ระหว่างทางกลับจากโตนเลสาบ"

     เมื่อออกจากวัดAthvea จึงเดินทางกลับมาถึงเมืองเสียมเรียบทันมื้อเย็นพอดี วันนี้ถือว่าเป็นวันที่ใช้เวลาน้อยที่สุด 

     เมื่อบอกลาน้องตุ๊กๆ ทานข้าวเติมพลัง จึงออกไปเดินเล่นต่อในเมืองช่วงค่ำๆ บรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยผู้คน
     สิ่งนึงที่รู้สึกเมื่อมาเที่ยวเสียมเรียบคือ เหมือนเราเดินเล่นอยู่บ้านตัวเอง สบายๆ ผู้คนดูไม่น่ากลัว (แต่เราไม่เดินที่เปลี่ยว และไม่กลับที่พักดึกจนเกินไป)
    ค่ำวันนั้น เราเดินไปห้าง Lucky Mall แล้วย้อนกลับมาเดิน Night Market ซื้อของฝาก และไม่ลืมที่จะแวะซื้อน้ำผลไม้ปั่นเจ้าอร่อย ก่อนกลับที่พัก 

ยามค่ำที่เมืองเสียมเรียบ

จบทริป เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D4 เป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง 4วันที่ผ่านมา ได้ไปครบทุกสถานที่ตามแผนจริงๆ

ส่วนวันถัดมาเราได้นัดให้รถแท็กซี่มารับที่โรงแรมช่วงสาย ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ตามไปปิดทริปด้วยกันนะ 

ใน เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D5 

 แผนเที่ยวในวันอื่นๆ

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D1

พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอังโกร์ วัดทเมย ปราสาทพนมบาเค็ง

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.1

ปราสาทนครวัด ปราสาทปักษีจำกรง 

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.2

ปราสาทนครธม ปราสาทบายน ปราสาทปาปวน ปราสาทพิมานอากาศ ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D2.3

ปราสาทวัดป่าไลเลย์ ปราสาทตาเขียว ปราสาทตาพรหม

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D3

ปราสาทกระวาน ปราสาทแปรรูป ปราสาทแม่บุญตะวันออก 

ปราสาทตาสม ปราสาทนาคพันธ์ ปราสาทพระขรรค์ 

เที่ยวเสียมเรียบ ไม่ไปกับทัวร์ก็เที่ยวได้ชัวร์.D5

เช้าๆ เดินเล่นแถวๆที่พักก่อนแท็กซี่จะมารับกลับไปที่ปอยเปต

แวะทานมื้อเที่ยงที่คาสิโน ซื้อของฝาก แล้วขึ้นรถบัสกลับตามเวลานัด

ถึงกรุงเทพฯราว 22.00น.